หมายเหตุ: ผู้อ่านต้องทำความเข้าใจกับเนื้อหาฉบับเต็มของ กปภ.04-2558 และมาตรฐานอื่นๆตามการร้องขอของแต่ละงาน ก่อนที่จะนำข้อมูลด้านล่างไปใช้
1.ข้อกําหนดทั่วไป
ผู้รับจ้างจะต้องจัดหาแรงงานวัสดุอุปกรณ์ต่างๆเพื่อทำการติดตั้งทดสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าและระบบไฟฟ้าทั้งหมดให้เสร็จสมบูรณ์ตามที่กำหนดไว้ในแบบแปลนไฟฟ้าและรายละเอียดเฉพาะแห่งให้ถูกต้อง ตามหลักวิชาการและมาตรฐานที่กำหนดโดยให้ถือตามมาตรฐานฉบับล่าสุด (ข้อที่ 8 ข้อกําหนดและ มาตรฐาน )
รายละเอียดที่กำหนดต่อไปนี้มีวัตถุประสงค์โดยทั่วไปว่าเมื่องานติดตั้งระบบไฟฟ้าเสร็จสิ้นแล้วจะต้องสามารถใช้งานได้ตามวัตถุประสงค์ของการออกแบบหากเกิดมีความเสียหายต่อส่วนหนึ่งส่วนใดก็ตามผู้รับจ้างจะต้องรับผิดชอบในการปรับปรุงซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ให้อยู่ในสภาพดีเช่นเดิม โดยผู้ว่าจ้างมิต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มขึ้นจากราคาที่ผู้รับจ้างเสนอ
ในการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น การติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า ตู้สวิตช์ การเดินสายไฟฟ้า การเชื่อมสาย และอุปกรณ์ต่างๆ ผู้รับจ้างมีหน้าที่ดำเนินการให้เรียบร้อยถูกต้องตามหลักวิชาการและตามความเห็นชอบ ของผู้ว่าจ้าง
1.1 ขนาดของอุปกรณ์ต่างๆ
ผู้รับจ้างจะต้องสํารวจขนาดและระยะต่างๆ ในตัวอาคารที่จะทำการติดตั้งอุปกรณ์ ตลอดจน การเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ผ่านไปยังจุดติดตั้งนั้นๆ อาจจำเป็นต้องถอดแยกอุปกรณ์นั้นๆ ออกเป็นส่วนๆ เพื่อให้สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกผู้รับจ้างก็สามารถทำได้ แต่ถ้าหากเกิดการเสียหายกับอุปกรณ์ใดๆ และกับตัวอาคารแล้ว เป็นความรับผิดชอบของผู้รับจ้างจะต้องดำเนินการซ่อมแซมให้คืนสภาพเดิมทุก ประการ โดยจะคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มจากผู้ว่าจ้างไม่ได้
1.2 การทำเครื่องหมายสำหรับอุปกรณ์
ผู้รับจ้างจะต้องจัดทำแผ่นป้ายแสดงอุปกรณ์ที่ติดตั้งหรือปรับปรุงด้วยแผ่นพลาสติก โดยเขียน ด้วยตัวอักษรสีดำลึกบนพื้นสีขาว ประกอบติดกับอุปกรณ์อย่างแน่นหนาแข็งแรง การทำเครื่องหมายให้ เป็นไปตามแบบแผนผังระบบไฟฟ้าและคำแนะนําของตัวแทนผู้ว่าจ้าง
สำหรับอุปกรณ์ที่จะต้องแสดงป้ายเครื่องหมายประกอบด้วย ตู้สวิตช์ตัดตอนรวม (Main Distribution Board) ตู้สวิตช์ควบคุมมอเตอร์ (Motor Control Panel) แผงสวิตช์ควบคุมแสงสว่างเต้ารับ ไฟฟ้า แผงควบคุมอุปกรณ์ เครื่องวัดวัด เซอร์กิตเบรคเกอร์ ฯลฯ
1.3 วัสดุ
วัสดุที่จะจัดหามาใช้ในการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมดจะต้องเป็นของใหม่ไม่เคยผ่านการใช้ งานมาก่อนและเป็นไปตามข้อกําหนดเฉพาะแห่ง วัสดุและอุปกรณ์ประเภทเดียวกัน เช่น
ชุดสตาร์ทมอเตอร์ DOL และสตาร์เดลต้า ให้ใช้ชนิดที่มีเครื่องหมายการค้าเดียวกันทั้ง โครงการ ส่วนอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าอื่นๆ เป็นไปตามมาตรฐาน กปภ.04-2558 ฉบับนี้
หากวัสดุใดที่ไม่ได้กำหนดไว้จะต้องเป็นชนิดที่ดีที่สุดของอุปกรณ์นั้นๆ ผู้ว่าจ้างอาจจะขอให้ผู้ รับจ้างจัดส่งตัวอย่างวัสดุต่างๆ ให้ตรวจสอบเพื่อรับความเห็นชอบก่อนจะทำการติดตั้งก็ได้
อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดที่อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง จะต้องมีการป้องกันการชํารุด เสียหายจากทางกลและการเปียกชื้นอย่างดีไม่ให้เกิดการชํารุดเสียหาย หากเกิดความเสียหายใดๆ ผู้รับจ้างจะต้องดำเนินการเปลี่ยนหรือซ่อมให้อยู่ในสภาพดีทุกประการ โดยจะคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มจากผู้ว่าจ้าง ไม่ได้ ในกรณีเกิดความเสียหายจากการเปียก และอยู่ในวิสัยที่สามารถใช้งานได้ ผู้รับจ้างจะต้องนํา อุปกรณ์นั้นไปผ่านกระบวนการทำให้แห้ง และทดสอบจนเป็นที่พอใจของตัวแทนผู้ว่าจ้าง หากตัวแทนของผู้ว่าจ้างมีความเห็นว่าสมควรเปลี่ยน อาจเสนอให้เปลี่ยนอุปกรณ์ดังกล่าวเสียก็ได้ โดยจะคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มจากผู้ว่าจ้างไม่ได้
1.4 ตัวแทนผู้รับจ้าง
ตัวแทนผู้รับจ้างในส่วนของงานไฟฟ้า จะต้องอยู่ประจำที่สถานที่ก่อสร้างตลอดเวลาขณะที่มีการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง และต้องประสานงานกับผู้ควบคุมงานหรือตัวแทนผู้ว่าจ้าง เพื่อควบคุมงานให้ดำเนินไปอย่างถูกต้อง และเป็นไปตามความต้องการของผู้ว่าจ้างซึ่งเป็นผู้มีอำนาจเต็มในการพิจารณาและดำเนินการเกี่ยวกับงานสร้างส่วนนี้
1.5 การทดสอบ
เป็นหน้าที่ของผู้รับจ้างที่จะต้องทำการทดสอบ เปลี่ยน ซ่อม และปรับแต่งอุปกรณ์ต่างๆ ในการติดตั้งระบบไฟฟ้าจนอยู่ในสภาพสมบูรณ์ และทำการทดลองใช้งานในสภาพที่ทำการติดตั้งจริงตาม ข้อกําหนดต่อหน้าตัวแทนของผู้ว่าจ้างก่อนที่จะส่งมอบงาน โดยที่ผู้รับจ้างจะต้องเป็นผู้เตรียมการจัดหา แหล่งจ่ายพลังงานไฟฟ้า เครื่องมือที่ใช้ในการทดสอบระบบไฟฟ้า ทั้งนี้ผู้รับจ้างเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการดำเนินการทั้งสิ้น
2.ความหมายที่กำหนดในแบบแปลน
วงจรไฟฟ้า 3 เฟสทั้งหมดให้เดินในท่อร้อยสายไฟฟ้าแยกท่อละ 1 วงจร นอกจากระบุไว้เป็นอย่างอื่น
ผู้รับจ้างจะต้องประสานงานเพื่อรับความเห็นชอบจากตัวแทนผู้ว่าจ้าง ในการกำหนดจุดที่ติดตั้งระดับความสูงของสวิตช์
เต้ารับไฟฟ้า ตู้สวิตช์ต่างๆ และอื่นๆ ก่อนทำการติดตั้ง การดำเนินการที่ไม่ได้รับ ความเห็นชอบจากตัวแทนผู้ว่าจ้างจะต้องทำการเปลี่ยนแปลงไปตามคำแนะนําของผู้แทนดังกล่าวโดยไม่มี เงื่อนไข และจะคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มจากผู้ว่าจ้างไม่ได้
จุดติดตั้งอุปกรณ์ตามที่กำหนดในแบบแปลน เป็นเพียงการกำหนดโดยประมาณเพื่อให้ทราบถึง วัตถุประสงค์ สถานที่หรือบริเวณเท่านั้น การติดตั้งจริงจะต้องเสนอ Layout Plan และ Installation Detail เพื่อขอความเห็นชอบในระหว่างการก่อสร้าง และเป็นหน้าที่ของผู้รับจ้างที่จะต้องประสานงานระหว่างการ ติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้ากับงานส่วนอื่นให้สอดคล้องกัน โดยเป็นไปตามคำแนะนําของตัวแทนผู้ว่าจ้าง เพื่อหลีกเลี่ยงอุปสรรคหรือการต้องแก้ไขโดยไม่จําเป็น
แบบแปลนตามสัญญานี้เป็นเพียงแผนผังและการทำหน้าที่ของวงจรหรืออุปกรณ์ต่างๆ เท่านั้น เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้รับจ้างจะต้องจัดทำ Shop Drawing และจัดหาแรงงานเพื่อติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ให้ทำงานได้สมบูรณ์พร้อมที่จะใช้งานในสนามทั้งระบบไฟฟ้าแสงสว่างและระบบไฟฟ้าอื่นๆ วงจรหรือ อุปกรณ์อื่นๆ ที่จะต้องประกอบเข้าไปเพื่อให้ทำงานได้สมบูรณ์ตามข้อกําหนด เป็นหน้าที่และความ รับผิดชอบของผู้รับจ้างเช่นกัน
การกำหนดขนาดพิกัดของมอเตอร์ไฟฟ้า อุปกรณ์ควบคุม ขนาดสายไฟฟ้า ขนาดท่อร้อยสายไฟฟ้า และอื่นๆ เป็นค่าโดยประมาณที่ได้จากการคํานวณเท่านั้น ผู้รับจ้างจะต้องเสนอแบบเพื่อขอความเห็นชอบ และจะต้องมีความมั่นใจว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ที่ติดตั้งมีขนาดถูกต้องตามพิกัดสำหรับใช้งานนั้นๆ ได้จริง ค่าขนาดของพิกัดของเครื่องป้องกันวงจรย่อยที่กำหนดไว้ตามแบบแปลนเป็นค่าสูงสุดที่กําหนดให้
ท่อร้อยสายไฟฟ้า สายไฟฟ้า อุปกรณ์ยึดจับที่มีความจําเป็นในการเชื่อมต่อระบบไฟฟ้ากับอุปกรณ์ ต่างๆ ผู้รับจ้างจะต้องเป็นผู้จัดหาและทำการติดตั้งทั้งสิ้น โดยเป็นไปตามแบบแปลนและรายละเอียดโดย ได้รับความเห็นชอบจากตัวแทนผู้ว่าจ้าง
3.แบบแสดงรายละเอียดเพื่อทำการติดตั้ง
3.1 Shop Drawingพร้อมทั้งรายการคํานวณ
ผู้รับจ้างจะต้องจัดทำ Shop Drawing เพื่อแสดงและขอรับความเห็นชอบในการติดตั้งอุปกรณ์ และวัสดุที่ใช้ โดยมีจำนวนและรายละเอียดตามที่ตัวแทนของผู้ว่าจ้างต้องการ
Shop Drawing ที่ผู้รับจ้างทำขึ้น จะต้องพิจารณาตรวจสอบความถูกต้องแม่นยําตามความ ต้องการของการออกแบบ สภาพ สถานที่ติดตั้ง วิธีการและข้อจํากัดต่างๆ ก่อนที่จะเสนอให้ผู้ว่าจ้าง พิจารณา ทั้งนี้ผู้รับจ้างและวิศวกรผู้ควบคุม (สามัญวิศวกร) จะต้องลงลายมือชื่อและวันที่ทำการตรวจสอบ ไว้ด้วย Shop Drawing ที่ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบรายละเอียดดังกล่าวข้างต้นจะถูกส่งกลับโดยไม่มีการ ตรวจสอบรับรองจากผู้ว่าจ้าง
ตัวแทนผู้ว่าจ้างจะตรวจสอบรับรอง Shop Drawing โดยจะพิจารณาเพียงแค่ความสอดคล้อง กับวัตถุประสงค์ของการออกแบบ และความสำคัญของการทำงานโดยสมบูรณ์ตามรายละเอียดและแบบแปลนเท่านั้น การเห็นชอบและการรับรองในวิธีการหรืออื่นใดที่ผู้รับจ้างเสนอมา มิได้ทำให้ผู้รับจ้างพ้นจาก ความรับผิดชอบต่อการจัดหาวัสดุอุปกรณ์ตลอดจนแรงงาน เพื่อทำให้งานเสร็จสมบูรณ์
ผู้รับจ้างจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อขนาดและมิติตามที่ได้ทำการติดตั้งจริงและไม่ให้เกิดความ เสียหายต่องานในส่วนที่เกี่ยวข้องอื่นๆ
การประกอบหรือติดตั้งอุปกรณ์ทุกชนิดจะดำเนินการมิได้ นอกจากได้รับความเห็นชอบจาก ตัวแทนผู้ว่าจ้างแล้วเท่านั้น
Shop Drawingจะต้องมีขนาดและรูปร่างตามที่ผู้ว่าจ้างกำหนดและจะต้องมีวิศวกรไฟฟ้า ระดับสามัญหรือวุฒิวิศวกรสาขาไฟฟ้ากําลังที่มีใบประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม (ก.ว.) ลงนามรับรอง Shop Drawing โดยต้องแนบสำเนา ใบประกอบวิชาชีพ ใบปริญญาบัตร สำเนาบัตรประชาชน ทั้งนี้ วิศวกร จะต้องลงนามรับรองในเอกสารดังกล่าวและต้องแนบรายละเอียดประกอบดังต่อไปนี้
3.1.1 ผังระบบจําหน่ายไฟฟ้าแรงตํ่าและแสงสว่างรอบบริเวณสถานที่ก่อสร้าง
3.1.2 ผังตู้สวิตช์ตัดตอนรวม ตู้สวิตช์ควบคุมมอเตอร์ และตู้สวิตช์ต่างๆ ซึ่งแสดง
(1) Single Line Diagram
(2) Panel Layout ประกอบด้วย Dimension, Component Layout and Wiring, Detail Section, Schematic Control Diagram
และรายละเอียดอื่นๆ
3.1.3 ผังแสดงรายละเอียดการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ตลอดจนไฟฟ้าแสงสว่างและเต้ารับไฟฟ้าในอาคารทุกหลัง
3.1.4 ให้ผู้รับจ้างต้องแสดงรายการคํานวณโหลดทางไฟฟ้าเสนอต่อผู้ว่าจ้างตรวจสอบต่อไป
3.1.5 อื่นๆ ที่ตัวแทนผู้ว่าจ้างต้องการ
3.2 แบบแสดงรายละเอียดที่ทำการติดตั้งจริง (Asbuilt Drawing)
หลังจากผู้รับจ้างทำการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์และได้ทำการทดลองแล้ว ผู้รับจ้างจะต้องจัดทำ Asbuilt Drawing ทั้งส่วนที่เป็นของเดิม (ถ้ามี) และส่วนที่ได้ทำใหม่ไว้อย่างชัดเจน โดยมีขนาดและรูปร่างตามที่ผู้ว่าจ้างกำหนด และจะต้องมีวิศวกรไฟฟ้าระดับสามัญหรือวุฒิวิศวกรสาขา ไฟฟ้ากําลัง ที่มีใบประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม (ก.ว.) ลงลายมือชื่อพร้อมกับผู้รับจ้างด้วย และต้องส่ง มอบกระดาษไขต้นฉบับมาตราส่วนเท่าแบบเดิมของผู้ว่าจ้างจำนวน 1 ชุด แบบแปลน
File Autocad รวมทั้ง Font และ Plot Style เป็นแผ่น CD จำนวน 5 ชุด และแบบแปลนพิมพ์เขียวขนาดเดียวกับต้นฉบับจำนวน 5 ชุด และเมื่อได้รับการพิจารณาตรวจสอบจากผู้ว่าจ้างหรือตัวแทนผู้ว่าจ้างแล้ว ผู้รับจ้างจึงจะขอส่งงานงวด สุดท้ายได้
4.การติดตั้งตู้ควบคุมไฟฟ้า
4.1 ข้อกําหนดทั่วไป
อุปกรณ์ไฟฟ้าตามรายการทั้งหมดให้ติดตั้งในตำแหน่งที่กำหนดในแบบแปลน โดยมีรายละเอียดดังนี้
4.1.1 งานไฟฟ้าทั้งหมดให้ปฏิบัติตาม ข้อกําหนดและมาตรฐานข้อ 8
4.1.2 อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ จะต้องทำการติดตั้งอย่างแข็งแรงปลอดภัย ด้วยอุปกรณ์ที่ จัดเตรียมมาสำหรับอุปกรณ์นั้นๆ โดยเฉพาะ หรืออุปกรณ์อื่นตามความเหมาะสม
4.1.3 อุปกรณ์ไฟฟ้าที่จะต้องติดตั้งกับงานเหล็กโครงสร้าง จะต้องได้รับความเห็นชอบจากตัวแทนผู้ว่าจ้างเสียก่อน
การยึดจับอุปกรณ์กับเหล็กโครงสร้างให้ใช้อุปกรณ์เฉพาะที่ออกแบบมาเพื่องาน ลักษณะนี้ ถ้าในการติดตั้งต้องใช้วิธีเชื่อมกับเหล็กโครงสร้างภายหลังการเชื่อมเสร็จจะต้องเคาะเอา Slag ออกแล้วทาสีทับ และจะต้องทำการต่อลงดินด้วยในกรณีที่มีความจําเป็น
4.2 ตู้สวิตช์ตัดตอนรวม
ตู้สวิตช์ควบคุมมอเตอร์ แผงสวิตช์ควบคุมแสงสว่าง และเต้ารับไฟฟ้า และแผงควบคุม
ให้ติดตั้งตามตำแหน่งและแบบการติดตั้งดังแสดงไว้ในแบบแปลนและตามความเห็นของผู้ว่าจ้าง โดยยึดหลักที่ว่าจะต้องมีทางเข้าไปปฏิบัติงาน ตรวจสอบ เปลี่ยนแปลงปรับปรุงและซ่อมแซมได้สะดวกโดยมีรายละเอียดดังนี้
4.2.1 การติดตั้งให้ใช้อุปกรณ์ประกอบตามความจําเป็น เช่น Support, Bracket และ Plateเพื่อยึดให้แข็งแรง อุปกรณ์เหล่านี้จะต้องทำการลบคมและทาสีให้เรียบร้อย
4.2.2 ตู้สวิตช์ตัดตอนรวมและตู้สวิตช์ควบคุมมอเตอร์ชนิดตั้งอิสระบนพื้น ให้ทำฐานคอนกรีต ยกพื้นขึ้นมาโดยมีความหนาตามความเหมาะสม การยึดตู้สวิตช์ติดกับพื้นให้ทำให้แข็งแรงโดยให้ใช้สมอฝังในคอนกรีต
4.2.3 ตู้สวิตช์ตัดตอนรวม ตู้สวิตช์ควบคุมมอเตอร์และแผงสวิตช์อื่นๆ ให้ติดตั้งกับโครงสร้างซึ่งไม่มีการเคลื่อนที่
ถ้าไม่สามารถติดตั้งได้ให้หารือกับตัวแทนผู้ว่าจ้างเพื่อหาตำแหน่งเหมาะสมต่อไป
4.2.4 เมื่อทำการติดตั้งตู้สวิตช์และแผงสวิตช์ต่างๆ ตลอดจนเดินสายและเชื่อมสายแล้ว จะต้องทำการตรวจสอบความแน่นหนาในการยึดตู้สวิตช์ บัสบาร์ เซอร์กิตเบรคเกอร์และอุปกรณ์ไฟฟ้า ทั้งหมดก่อนทำการทดสอบการใช้งาน
4.2.5 ตู้สวิตช์ตัดตอนรวม ตู้สวิตช์ควบคุมมอเตอร์ แผงสวิตช์ควบคุมแสงสว่างและเต้ารับไฟฟ้า และแผงควบคุม จะต้องป้องกันไม่ให้สัตว์ต่างๆ เข้าไปข้างในได้ เช่น หนู จิ้งจก ฯลฯ โดยจะต้องมีรู หรือช่องต่างๆ ที่โตไม่เกิน 3 มิลลิเมตร
4.3 ระบบเครื่องมือวัด
ให้ทำการติดตั้งเครื่องมือวัดต่างๆ เช่น Flow Meter ฯลฯ ตามที่กำหนดไว้ในแบบแปลน โดย แยกเดินสายไฟฟ้ากําลังและสายส่งสัญญาณออกจากกันคนละท่อ
4.4 การเตรียมช่องเปิดและปลอก (Opening and Sleeves)
ผู้รับจ้างจะต้องจัดหาและติดตั้งปลอก (Sleeves) หรือทำช่องเปิด (Opening) หรือทำการเดิน ท่อร้อยสายไฟฟ้าก่อนในส่วนที่อยู่ในพื้น ผนัง หรือทะลุผ่านคานคอนกรีตโดยให้ประสานงานกันระหว่างงาน ด้านไฟฟ้า งานด้านก่อสร้างและงานอื่นๆ
เพื่อหลีกเลี่ยงการเจาะพื้นเสาหรือส่วนอื่นๆ อันจะก่อให้เกิดความ เสียหายต่อโครงสร้างของอาคารและงานอื่นๆ
5.การเดินสายไฟฟ้าและอุปกรณ์
5.1 การเดินสายไฟฟ้า
ให้เดินสายไฟฟ้าไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในแบบแปลน โดยให้ยึดถือกฎการ เดินสายของข้อกําหนดและมาตรฐานข้อ 8 ไว้เป็นหลักในการปฏิบัติงาน โดยมีรายละเอียดดังนี้
5.1.1 การต่อเชื่อมสายจะต้องเชื่อมต่อในกล่องต่อสายทั้งภายในและภายนอกของอาคาร
5.1.2 การต่อเชื่อมสายภายนอกอาคารบริเวณเสาไฟฟ้า ไม่อนุญาตให้เชื่อมต่อสายไฟฟ้า ระหว่างกลางของเสาไฟฟ้า
5.1.3 การเดินสายไฟฟ้าให้ใช้ความระมัดระวัง ห้ามมีรอยชํารุดของฉนวน ห้ามหักงอ และไม่อนุญาตให้ดัดงอและโค้งจนรัศมีตํ่ากว่า 12 เท่าของเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของสายไฟ
5.1.4 สายไฟฟ้าที่ติดตั้งแล้วเกิดการชํารุดให้ทำการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ โดยอยู่ในดุลยพินิจของตัวแทนผู้ว่าจ้าง โดยผู้รับจ้างจะคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มไม่ได้
5.1.5 การเดินสายไฟฟ้ากําลังให้เดินลอยในอากาศโดยยึดบนเสาไฟฟ้าด้วย Secondary Rack หรือเดินในท่อร้อยสายไฟฟ้า โดยยึดถือตามแบบแปลนและถ้าไม่ได้กำหนดไว้ให้เดินในท่อร้อยสายไฟ หรือให้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของตัวแทนผู้ว่าจ้าง
5.1.6 การเดินสายไฟฟ้าแสงสว่างและเต้ารับไฟฟ้าในอาคารสำนักงาน โรงกรองน้ำ โรงสูบน้ำ โรงเก็บพัสดุ และอาคารอื่นๆ ถ้ามิได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ให้ปฏิบัติดังนี้
- ในบริเวณที่เป็นคานคอนกรีต ฝ้าเพดานฉาบปูนเรียบ ฝ้าเพดานกระเบื้องแผ่น เรียบเคร่าไม้และผนังต่างๆ ให้เดินสายไฟฟ้าโดยใช้สายแกนเดียวหุ้มฉนวนและ เปลือกนอกหุ้มฉนวนพีวีซีชนิด IEC 01 (THW) เดินในท่อ EMT
- ในบริเวณที่เป็นฝ้าเพดานเซลโลกรีตวางบนเคร่าทีบาร์ ให้เดินสายไฟฟ้าหลังฝ้าเพดาน โดยใช้สายแกนเดียวหุ้มฉนวนพีวีซีชนิด IEC 01(THW) เดินในท่อ EMT
- ในบริเวณที่ไม่มีฝ้าและเป็นโครงสร้างเหล็ก ให้เดินสายไฟฟ้าโดยใช้สายแกน เดียวหุ้มฉนวนพีวีซีชนิด IEC 01(THW) เดินในท่อ EMT
- บ้านพักในบริเวณที่เป็นฝ้าเพดานกระเบื้องแผ่นเรียบเคร่าไม้และผนังต่างๆ ให้เดินสายไฟฟ้าโดยใช้สายสองแกนหุ้มฉนวนและเปลือกนอกพีวีซีชนิด VAF เดินตีคลิป
5.1.7 การเข้าสายที่แผงต่อสายของตู้สวิตช์ต่างๆให้ใช้หางปลาขนาดที่เหมาะสมกับขนาด สายไฟฟ้า และสายขนาดตั้งแต่ 16 ตารางมิลลิเมตรขึ้นไปจะต้องใช้หางปลาแบบขันด้วยสกรูเท่านั้น สลัก เกลียวและแป้นเกลียวที่ใช้ยึดให้เป็นชนิดที่ชุบด้วยแคดเมียมทนแรงดึงสูง สายควบคุมและสายเข้าเครื่องมือวัดต่างๆ ให้ใส่หมายเลขสายตามวงจรการเดินสายนั้นๆ โดยใช้วิธีพิมพ์ติดกับสายหรืออาจจะเป็นปลอก วงกลมทำจากพีวีซีก็ได้
5.1.8 การเดินสายเคเบิลใต้ดิน ให้เป็นไปตามมาตรฐาน วสท. บทที่ 5 (หัวข้อ5.1.4)
ความลึกในการติดตั้งใต้ดิน สำหรับระบบไฟฟ้าแรงดันตํ่า เป็นไปตามตารางนี้ (มาจากตาราง วสท.)
ความลึกในการติดตั้งใต้ดิน สำหรับระบบไฟฟ้าแรงดันตํ่า
วิธีที่ |
วิธีการเดินสาย |
ความลึกน้อยที่สุด (เมตร) |
1 |
สายเคเบิลฝังดินโดยตรง |
0.60 |
2 |
สายเคเบิลฝังดินโดยตรงและมีแผ่นคอนกรีตหนาไม่น้อยกว่า 50 มิลลิเมตรวางอยู่เหนือสาย |
0.45 |
3 |
ท่อโลหะหนาและหนาปานกลาง |
0.15 |
4 |
ท่อโลหะซึ่งได้รับการรับรองให้ฝังดินโดยตรงได้โดยไม่ต้อง มีคอนกรีตหุ้ม (เช่น ท่อเอชดีพีอี และท่อพีวีซี) |
0.45
|
5 |
ท่อใยหิน หุ้มคอนกรีตเสริมเหล็ก |
0.45 |
6 |
ท่อร้อยสายไฟฟ้าอื่นๆ ซึ่งได้รับการเห็นชอบจากการไฟฟ้าฯ |
0.45 |
*หมายเหตุ
(1) ท่อร้อยสายไฟฟ้าที่ได้รับการรับรองให้ฝังดินได้โดยมีคอนกรีตหุ้มต้องหุ้มด้วยคอนกรีตหนาไม่น้อยกว่า 50 มิลลิเมตร
(2) สำหรับวิธีที่ 4, 5, และ 6 หากมีแผ่นคอนกรีตหนาไม่น้อยกว่า 50 มิลลิเมตรวางอยู่เหนือสายยอม ให้ความลึกลดลงเหลือ 0.30 เมตร ได้
(3) ข้อกําหนดสำหรับความลึกนี้ไม่ใช้บังคับสำหรับการติดตั้งใต้อาคารหรือใต้พื้นคอนกรีตซึ่งหนาไม่น้อยกว่า 100 มิลลิเมตร และยื่นออกไปจากแนวติดตั้งไม่น้อยกว่า 150 มิลลิเมตร
(4) บริเวณที่มีรถยนต์วิ่งผ่าน ความลึกต้องไม่น้อยกว่า 0.60 เมตร
5.2 การติดตั้งท่อร้อยสายไฟฟ้า
ห้ามไม่ให้ร้อยสายไฟฟ้าจนกว่าการเดินท่อร้อยสายไฟฟ้าจะทำการติดตั้งสมบูรณ์และตัวแทน ผู้ว่าจ้างได้ตรวจสอบถูกต้องแล้ว ในกรณีท่อร้อยสายไฟฟ้าฝังในคอนกรีตจะต้องทำการฉาบปูนให้ เรียบร้อยเสียก่อน โดยมีรายละเอียดดังนี้
5.1.1 ให้ทำความสะอาดทั้งภายในและภายนอกท่อก่อนทำการติดตั้ง
5.1.2 การดัดงอท่อต้องไม่ทำให้เสียรูปทรงและรัศมีความโค้งของการดัดงอต้องเป็นไปตาม ข้อกําหนด ว.ส.ท.หรือ NEC (ไม่เกิน 360 องศา)
5.1.3 ท่อต้องยึดกับโครงสร้างอาคารหรือโครงสร้างถาวรอื่นๆทุกๆระยะไม่เกิน 1.50 เมตร
5.1.4 ท่อแต่ละส่วนหรือแต่ละระยะต้องติดตั้งเป็นที่เรียบร้อยก่อนจึงสามารถร้อยสายไฟฟ้า เข้าท่อได้ ห้ามร้อยสายเข้าท่อในขณะกําลังติดตั้งท่อในส่วนนั้น
5.1.5 การใช้ท่ออ่อนต้องใช้ความยาวไม่น้อยกว่า 0.30 เมตร
5.1.6 ห้ามใช้ท่อโลหะเป็นตัวนำสำหรับต่อลงดิน
5.1.7 ห้ามใช้ท่อโลหะขนาดเล็กกว่า 15 มิลลิเมตร (1/2 นิ้ว)
5.1.8 ห้ามใช้ท่อโลหะบาง (EMT) ฝังดินโดยตรง หรือใช้ในระบบไฟฟ้าแรงสูง
5.1.9 แนวการติดตั้งท่อต้องเป็นแนวขนานหรือตั้งฉากกับตัวอาคารเสมอ
5.1.10 ปลายท่อที่มีการร้อยสายเข้าท่อ ถ้าอยู่ภายนอกอาคารหรือในที่เปียกชื้น ต้องมีหัวงูเห่า(Service Entrance Fitting) ใส่ไว้
5.1.11 พื้นที่หน้าตัดของท่อร้อยสายไฟฟ้าทุกเส้นที่เดินในท่อ เมื่อรวมแล้วต้องไม่เกิน 40% ของพื้นที่หน้าตัด
ภายในของท่อ
5.1.12 ปลายท่อร้อยสายไฟฟ้าจะต้องทำการอุดเพื่อป้องกันความชื้น และฝุ่นเข้าในขณะทำการก่อสร้างและจะต้องทำการลบคมของท่อร้อยสายไฟฟ้าก่อนทำการติดตั้งด้วย
5.1.13 การยึดและติดตั้งท่อร้อยสายไฟฟ้าให้ใช้อุปกรณ์ยึดจับท่อที่เหมาะสม เช่น Clampและ Hanger โดยให้มีระยะห่างกันไม่เกิน 2 เมตร
5.1.14 การติดตั้งท่อร้อยสายไฟฟ้า ให้ติดตั้งในแนวขนานกับพื้น ผนัง และการหักมุมให้เป็น มุมฉากเท่านั้น การต่อท่อเข้ากล่องต่อสายและตู้สวิตช์ต่างๆ ให้ใช้อุปกรณ์ให้ครบและถูกต้องตามหลักวิชา เช่น Locknut, Insulated Bushing ฯลฯ
กล่องต่อสายในส่วนที่มองไม่เห็นให้ใช้ชนิดกล่องเหล็กขึ้นรูปได้ ส่วนในบริเวณที่สามารถมองเห็นได้ให้ใช้กล่องต่อสายและอุปกรณ์ต่อท่อชนิดโลหะหล่อเท่านั้น
5.1.15 ก่อนเข้ามอเตอร์และอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดที่มีการสั่นสะเทือน ให้ใช้ท่อร้อยสายไฟฟ้าชนิด Liquid Tight Flexible Conduit ทุกครั้ง
5.1.16 ท่อร้อยสายไฟฟ้า ให้ทำแถบสีสัญลักษณ์ขนาดกว้าง 100 มิลลิเมตร ทุกระยะ 4 เมตร โดยมีรายละเอียดดังนี้
– สายไฟฟ้ากําลัง : สีส้ม
– สายควบคุม : สีม่วง
– สายส่งสัญญาณ : สีเขียวอ่อน
*หมายเหตุ
ข้อกําหนดนอกเหนือจากนี้ ให้เป็นไปตามมาตรฐาน วสท.ฉบับล่าสุด บทที่ 5 ข้อกําหนดการเดินสาย และวัสดุ
5.3 การติดตั้งกล่องต่อสาย กล่องดึงสาย
5.3.1 การติดตั้งกล่องต่อสายและกล่องดึงสายต้องยึดแน่นกับโครงสร้างอาคารหรือ โครงสร้างถาวรอื่นๆและตำแหน่งของกล่องต่อสายต้องติดตั้งอยู่ในที่ซึ่งเข้าถึงและทำงานได้สะดวกโดยไม่ ต้องรื้อถอนส่วนใดส่วนหนึ่งของอาคาร
5.3.2 การเดินท่อห้ามหักโค้ง 90 องศาเกิน 3 ครั้ง โดยไม่ได้ติดตั้งกล่องดึงสาย
5.3.3 ท่อที่ต่อเข้ากับกล่องต่อสาย และอุปกรณ์ต้องมี Connector ติดไว้
5.3.4 การต่อท่อกับกล่องต่อสายและตู้ ส่วนที่เป็นเกลียวของท่อที่ต่อผ่านเข้าไปในกล่องต่อ สายและตู้ต้องมี Lock Nut ทั้งด้านในและด้านนอก และต้องมี Bushing ด้านในของกล่องต่อสายและด้าน ในของตู้ (เพิ่ม)
5.3.5 กล่องที่ใช้กับระบบไฟฟ้าแรงสูงต้องมีป้ายข้อความ “อันตรายไฟฟ้าแรงสูง” ติดไว้อย่างถาวร และอยู่ด้านนอกของฝากล่องสามารถเห็นได้ชัด
5.4 การติดตั้งและการเดินสาย ในรางเดินสายไฟฟ้า
5.4.1 สายที่เดินในรางเดินสาย และรางเคเบิลให้ใช้สายเคเบิลแกนเดียว หรือหลายแกนหุ้ม ฉนวน มีเปลือกนอก 2 ชั้น ชนิด 60227-IEC 10 หรือ NYY, NYY-G หรือ CV เท่านั้น
5.4.2 การติดตั้งรางเดินสาย ต้องมีที่รองรับหรือแขวนยึดให้มั่นคง ที่รองรับหรือแขวนยึดรางเดินสายที่เดินในแนวนอน ต้องห่างกันไม่เกิน 1.5 เมตร รางเดินสายที่เดินในแนวดิ่งต้องมีที่รองรับหรือแขวน ยึดห่างกันไม่เกิน 4.50 เมตร และมีจุดต่อของรางเดินสาย ระหว่างช่วงของที่รองรับ หรือที่ยึดไม่เกิน 1 แห่ง ท่อหรือทางเดินสายอื่นๆ ที่นํามาต่อกับรางเดินสายไม่นับเป็นที่รองรับหรือที่ยึด
5.4.3 ที่ปลายของรางเดินสาย เมื่อไม่มีการเดินสายเข้าออกต้องปิดด้วยแผ่นปิดท้ายรางที่ทำมาสำหรับใช้กับรางชนิดเดียวกันเท่านั้น
5.4.4 อุปกรณ์ประกอบรางเดินสาย ได้แก่ ข้องอ ข้อต่อ ข้อต่อลดขนาด กล่องแยก 3 ทาง 4 ทาง ฯลฯ ให้ใช้อุปกรณ์สําเร็จรูปเท่านั้น
5.4.5 การต่อเนื่องกัน (Bonding) การใช้รางเดินสายสำหรับเดินสายไฟฟ้า โดยรางเป็นโลหะ จะต้องคำนึงถึงความต่อเนื่องถึงกันทางไฟฟ้าตลอดของการติดตั้งรางเดินสาย ไม่ให้เกิดการขาดตอนได้ ข้อ ต่อระหว่างรางเดินสายแต่ละช่วงจะต้องแนบสนิทหรือมีสายทองแดงขนาดตามมาตรฐาน NEC เรื่องราง เดินสายจะต้องมีความต้านทานต่อกระแสไฟฟ้าตํ่าตลอดระยะทางและต้องรับปริมาณกระแสไฟฟ้าอันเกิด จากลัดวงจรได้อย่างปลอดภัย
5.4.6 การเดินสายในรางเดินสาย ที่ไม่ได้อยู่ในแนวนอนจะต้องยึดสายที่เดินไปกับพื้นรางให้มั่นคง
5.4.7 สายไฟฟ้าที่ใช้งานแบบวงจรขนานเดินในรางเดินสาย ต้องจัดสายสำหรับวงจรต่อขนานนั้นรวมกันเป็นชุดๆ
โดยแต่ละชุดมีสายของไฟแต่ละเฟส สายศูนย์ไม่เกิน 1 เส้น และสายดิน (ถ้ามี)ครบถ้วนในแต่ละชุด
5.4.8 พื้นที่หน้าตัดทั้งหมดของสายไฟฟ้าทุกเส้นที่เดินในรางเดินสาย (Wire Way) เมื่อรวมกัน แล้วต้องไม่เกิน 20% ของพื้นที่หน้าตัดภายในของรางเดินสาย
5.4.9 ขนาดกระแสของสายในรางเดินสาย (Wire Way) ให้ใช้ค่ากระแสตามตารางของ วสท. หากตัวนําที่มีกระแสไหลรวมกันไม่เกิน 30 เส้น ตัวนําวงจรสัญญาณ หรือวงจรควบคุมที่อาจมีกระแสไหล ในช่วงระยะเวลาสั้นไม่ถือว่าเป็นตัวนํากระแส
*หมายเหตุ
ข้อกําหนดนอกเหนือจากนี้ ให้เป็นไปตามมาตรฐาน วสท. ฉบับล่าสุด บทที่ 5 ข้อกําหนดการเดินสาย และวัสดุ
6.การติดตั้งและทดสอบการต่อลงดิน
(1) การติดตั้งให้เป็นไปตามมาตรฐานการต่อลงดิน หมวด ข.มาตรฐานความปลอดภัย กปภ.04- 2558 ฉบับนี้
(2) การติดตั้งจะต้องให้ช่างชํานาญงานที่ผ่านการอบรมการติดตั้งระบบการต่อลงดินและระบบป้องกันฟ้าผ่าเป็นผู้ปฏิบัติงาน
(3) ผู้รับจ้างจะต้องปฏิบัติงานตามขั้นตอนในการติดตั้งที่ได้ระบุไว้ในคู่มือการติดตั้งของทางผู้ผลิตอย่างเคร่งครัด
(4) ผู้รับจ้างต้องทำ Shop Drawing แสดงรายละเอียดของระบบป้องกันฟ้าผ่าให้ผู้ว่าจ้างอนุมัติก่อนดำเนินการติดตั้ง
(5) ต้องมีการวัดค่าความต้านทานดินโดยที่ค่าความต้านทานของแต่ละจุด
– จะต้องไม่เกิน 5 โอห์ม (สำหรับระบบไฟฟ้าและระบบป้องกันฟ้าผ่า)
– จะต้องไม่เกิน 2 โอห์ม (สำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์)
(6) การวัดค่าความต้านทานระหว่างหลักดินกับดิน (Principle of Earth Resistance Test)
- วิธีวัดแบบ 3 จุด (3 Point Method or Fall of Potential Method)
- วิธี Selectivity
- วิธี Stakeless
โดยเลือกใช้วิธีใดวิธีหนึ่ง
7.งานปรับปรุงของเดิม(Rehabilitation Work)
7.1 ขอบข่ายงาน
งานในส่วนนี้จะครอบคลุมถึงการปรับปรุงอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ติดตั้งใช้งานอยู่ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้า ของเดิมที่ย้ายสถานที่ติดตั้งใหม่ โดยที่ผู้รับจ้างจะต้องเป็นผู้จัดหาวัสดุ อะไหล่ ตลอดจนแรงงานเพื่อ ดำเนินการทั้งหมด ตามที่กำหนดไว้ในแบบแปลนและรายละเอียดเฉพาะแห่ง
7.2 วัตถุประสงค์ทั่วไป
ในการดำเนินการปรับปรุงอุปกรณ์ไฟฟ้าในส่วนนี้จะต้องมีการประสานงานกันกับงานส่วนอื่นๆ เช่น การก่อสร้าง พื้นอาคารฯลฯ เพื่อให้สามารถทำงานได้ผลตามที่ต้องการของผู้ออกแบบ
อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ที่ทำการปรับปรุงผู้รับจ้างจะต้องตรวจสอบปรับปรุงให้อยู่ในสภาพใช้งาน ได้ดี การรื้อถอนและการประกอบติดตั้งใหม่ต้องได้รับความเห็นชอบจากตัวแทนผู้ว่าจ้างเสียก่อน อุปกรณ์ ไฟฟ้าที่หมด
ความจําเป็นในการใช้งาน ผู้แทนผู้ว่าจ้างอาจจะแนะนําให้ทำการรื้อถอนออกแล้วส่งมอบให้ กปภ. ก็ได้ โดยที่ผู้รับจ้างจะคิดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เพิ่มเติมไม่ได้ทั้งสิ้น
8. ข้อกำหนดและมาตรฐานอ้างอิง
วัสดุ อุปกรณ์ ตลอดจนวิธีการติดตั้งระบบไฟฟ้าตามสัญญานี้ให้ถือปฏิบัติตามข้อกําหนดและ มาตรฐาน ดังต่อไปนี้
- มาตรฐานในการติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทยฉบับล่าสุด (ว.ส.ท.)
- การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)
- สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.)
- กฎเทศบัญญัติของท้องถิ่นและอื่นๆ
- National Electrical Code (NEC)
- National Electrical Manufacturers Association (NEMA)
- Underwriters’ Laboratories, Inc. (Ul)
- American National Standards Institute (ANSI)
- International Electrotechnical Commission (IEC)
- Institute of Electrical and Electronics Engineers (IEEE)
- European standards (EN)
- Deutsch Institute Norms (DIN)